สวัสดีครับ เรื่องวิธีการจัดการเรียนรู้จะกล่าวถึงวิธีการจัดการเรียนรู้แบบต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยให้ครูผู้สอนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนรู้หรือจัดการเรียนการสอนได้อย่างหลากหลายวิธี พร้อมแล้วเริ่มเรียนรู้กันเลยนะครับ
วิธีจัดการเรียนรู้หรือวิธีการสอน เป็นวิธีการหรือกระบวนการต่าง ๆ ที่ผู้สอนนำมาใช้สอนผู้เรียน เพื่อการสอนมีประสิทธิภาพในด้านต่าง ๆ โดยผู้สอนจะต้องมีความรู้ความเข้าใจมีเทคนิค รวมทั้งมีทักษะในการนำวิธีการหรือกระบวนการสอนเหล่านั้นมาใช้ในการเรียนการสอนได้เป็นอย่างดี แนวทางจัดการเรียนรู้มี 2 วิธี คือ จัดการเรียนรู้แบบผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง (Student Center) และจัดการเรียนรู้แบบผู้สอนเป็นศูนย์กลาง (Teacher Center)
1. การจัดการเรียนรู้แบบบรรยาย การจัดการเรียนรู้แบบบรรยายหรือวิธีสอนแบบบรรยาย (Lecture) เป็นการสอนแบบที่ครูเป็นศูนย์กลาง ครูเป็นผู้พูด ผู้บอกเล่าหรืออธิบายเนื้อหา หรือเรื่องราวต่าง ๆ ให้ผู้เรียนฟัง เป็นการเรียนการสอนแบบทางเดียว คือ จากผู้สอนไปสู่ผู้เรียน วิธีสอนแบบบรรยาย มีจุดมุ่งหมายเพื่อ
2. การจัดการเรียนรู้แบบอภิปราย การจัดการเรียนรู้แบบอภิปรายหรือวิธีสอนแบบอภิปราย (Discussion) มีลักษณะเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ให้ผู้เรียนพิจารณาปัญหาที่จะหาคำตอบจากหลายๆ ความคิด เสนอประเด็น แลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ผู้เรียนเป็นคนตั้งคำถาม ตอบคำถาม โต้แย้ง และสนับสนุนระหว่างผู้เรียนเอง ผู้สอนเป็นเพียงผู้สร้างบรรยากาศและคอยเสริมสรุปประเด็น แนะนำให้ผู้เรียนเห็นแนวทางแก้ปัญหา คอยกำกับดูแลให้การอภิปราย ดำเนินไปอย่างตรงเป้าหมาย
รูปแบบวิธีการอภิปราย
3. การจัดการเรียนรู้โดยการแสดงบทบาทสมมติ การสอนโดยการแสดงบทบาทสมมติ (Role Playing) เป็นการสอนที่ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง เริ่มจากการเลียนแบบบุคลิกลักษณะ การกระทำของบุคคลในสถานการณ์ใดสถานการณ์หนึ่งหรือปัญหาใดปัญหาหนึ่ง รวมไปถึงการแสดงละครเป็นเรื่องราวต่าง ๆ เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจ และวิเคราะห์สถานการณ์ เพื่อนำไปสู่การอภิปรายและสรุปเกี่ยวกับสภาพการณ์หรือปัญหาที่เป็นมา ทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้
ประเภทการแสดงบทบาทสมมติ
ผู้สอนควรเลือกใช้วิธีการแสดงบทบาทสมมติเมื่อมีจุดมุ่งหมายดังนี้
4. การจัดการเรียนรู้โดยใช้เกมจำลองสถานการณ์ การสอนโดยใช้เกมจำลองสถานการณ์ (Simulation Gaming) เป็นการสอนที่ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง พัฒนามาจากการแสดงบทบาทสมมติ การจำลองสถานการณ์ และการเล่นเกมไว้ด้วยกัน โดยนำเกมเข้ามาใช้ควบคู่กับการสอน กำหนดสถานการณ์จำลอง กำหนดกติกาสำหรับเกม แล้วแบ่งผู้เรียนออกเป็นกลุ่มเข้าไปแข่งขันหรือเล่นในสถานการณ์จำลองนั้น
5. การจัดการเรียนรู้โดยใช้การระดมความคิด การสอนโดยใช้การระดมความคิด (Brainstorming) หรือการระดมสมอง เป็นการสอนแบบที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ผู้เรียนทุกคนได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็น ให้ข้อเสนอแนะในการแก้ปัญหาให้มากที่สุด ผู้สอนจะเป็นผู้ชี้แนะหรือบอกแนวทางการค้นพบความรู้ ผู้เรียนจะต้องนำสิ่งที่ได้มาระดมความคิด และสรุปรวมให้ได้ว่ารายละเอียดควรเป็นอย่างไร
6. การจัดการเรียนรู้แบบศูนย์การเรียน การสอนแบบศูนย์การเรียน (Learning Center) เป็นการสอนที่ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ยึดหลักการจัดสภาพแวดล้อม เน้นการใช้สื่อการสอนหลายอย่าง เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ศึกษาหาความรู้ด้วยตนเองด้วยการปฏิบัติกิจกรรมจากชุดการสอนในแต่ละกลุ่ม แบ่งกลุ่มเพื่อปฏิบัติกิจกรรมของแต่ละศูนย์การเรียน ให้ผู้เรียนมีโอกาสได้เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนโดยทั่วถึงกัน ทำให้ผู้เรียนมีโอกาสค้นหาคำตอบด้วยตนเอง และสามารถทำงานร่วมกับเพื่อนได้ การสอนแบบศูนย์การเรียน ครูจะจัดเตรียมเนื้อหาวิชาไว้ให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้า โดยอาจจะจัดไว้เป็นชุด เรียกว่าชุดการสอน ประกอบด้วยจุดมุ่งหมายเชิงพฤติกรรม หัวข้อที่จะต้องเรียน เนื้อหาวิชา วิธีสอน กิจกรรมที่จะต้องปฏิบัติ สื่อการเรียนการสอน การวัดผลและประเมินผล รวมทั้งบัตรคำสั่งต่าง ๆ สำหรับให้ผู้เรียนปฏิบัติตามคำสั่ง ซึ่งแต่ละชุด การสอนจะมีความสมบูรณ์ในตัวเอง และจะต้องจัดไว้ให้พอเพียงกับจำนวนของผู้เรียน
7. การจัดการเรียนรู้แบบสืบสวนสอบสวน การสอนแบบสืบสวนสอบสวนหรือสืบเสาะแสวงหาความรู้ (Inquiry) เป็นวิธีสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง เน้นกระบวนการฝึกผู้เรียนให้รู้จักและมีทักษะในการใช้ความคิดพิจารณาอย่างมีระบบ เพื่อแสวงหาความจริง โดยคิดอย่างมีวิจารณญาณรอบคอบ เพื่อที่จะนำไปสู่การหาเหตุผล วิเคราะห์ วิจัย และประเมินค่าเพื่อให้ได้ผลสรุปที่ต้องการ หรือสามารถนำไปใช้แก้ปัญหาได้ ประกอบด้วย การตั้งปัญหา การตั้งสมมติฐาน การออกแบบทดลอง การพิสูจน์สมมติฐาน การสรุปผล และการนำไปใช้
ขั้นที่ 1 การตั้งปัญหา ผู้เรียนจะเริ่มต้นตั้งปัญหาในสิ่งที่ตนอยากจะรู้ ซึ่งปัญหานั้น ๆ อาจจะได้มาจากการสอนของผู้สอน เช่น ผู้สอนเสนอปัญหาเพื่อนำเข้าสู่บทเรียนหรือปัญหาที่พบจากการทดลอง หรือปัญหาที่พบจากบทเรียน เป็นต้น
ขั้นที่ 2 การตั้งสมมติฐาน เมื่อมีปัญหาแล้วผู้เรียนช่วยกันคิดหาคำตอบโดยอาศัยเหตุผลประกอบว่า คำตอบควรจะเป็นอะไรบ้าง คำตอบเหล่านี้เรียกว่า สมมติฐานซึ่งอาจจะเป็นสมมติฐานที่ถูกหรือผิดก็ได้
ขั้นที่ 3 การออกแบบทดลองเพื่อพิสูจน์สมมติฐาน เป็นการคิดหาวิธีการที่ จะทำการทดลองเพื่อที่จะให้ได้ผลออกมา ซึ่งผลที่ได้นั้นอาจจะตรงหรือไม่ตรงกับสมมติฐานที่ตั้งไว้ก็ได้แต่จะทำให้ผู้เรียนรู้จักคิดค้น
ขั้นที่ 4 การพิสูจน์สมมติฐาน เป็นการพิสูจน์ว่าสมมติฐานใดเป็นไปได้การพิสูจน์สมมติฐานนี้อาจจะทำได้โดยการทดลองหรือระดมความคิด
ขั้นที่ 5 การสรุปผล เป็นขั้นที่สำรวจดูว่าสมมติฐานใดที่พิสูจน์แล้วถูกต้องสอดคล้องกับปัญหาที่ตั้งไว้ ก็จะได้อภิปรายตัดสินและสรุปผล ซึ่งจะได้คำตอบของปัญหาที่ต้องการ
ขั้นที่ 6 การนำไปใช้ เป็นขั้นที่นำผลการสรุปไปประยุกต์ใช้ โดยครูอาจให้ผู้เรียนแก้ปัญหา สถานการณ์ใดสถานการณ์หนึ่ง โดยใช้แนวคำตอบที่ได้จากการสรุปผลของการสืบสวนสอบสวนนั้น
จากขั้นตอนการสอน ทั้ง 6 ขั้นตอน ผู้เรียนจะเป็นผู้ดำเนินการในการแก้ปัญหาทั้งหมด ผู้สอนเป็นเพียงผู้ช่วยเหลือให้ความสะดวกในการเรียนเท่านั้น และช่วยในการปลูกฝังให้ผู้เรียนเกิดความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ผู้สอนจะมีหน้าที่เป็นผู้ช่วยผู้เรียนในการดำเนินการแก้ปัญหาเมื่อผู้เรียนเกิดติดขัด โดยอาจใช้คำถาม ถามเพื่อเป็นแนวทางให้ผู้เรียนคิดเป็นขั้น ๆ จนกระทั่งได้ผลสรุปที่ต้องการ
8. การสอนแบบปฏิบัติการทดลองหรือแบบปฏิบัติการ (Laboratory) เป็นการสอนที่เน้นการกระทำกิจกรรมที่ใช้ประสบการณ์ตรง เพื่อให้ได้ผลผลิตหรือข้อเท็จจริงจากการสืบสวนค้นคว้า ทดลอง และสังเกตเป็นรายบุคคล หรือเป็นกลุ่มฝึกปฏิบัติการใช้ทฤษฎีโดยผ่านการสังเกตภายใต้สภาพที่ควบคุมไว้ การสอนแบบปฏิบัติการทดลอง มีจุดมุ่งหมายเพื่อ
9. การจัดการเรียนรู้แบบนิรนัย การสอนแบบนิรนัยหรืออนุมาน (Deductive) เป็นการสอนจากกฎเกณฑ์ไปหาตัวอย่าง โดยที่ผู้เรียนจะเรียนรู้หลัก กฎเกณฑ์ สูตร นิยาม ทฤษฎี หรือหลักความจริงโดยทั่วไปก่อน แล้วจึงมีการศึกษา ยกตัวอย่างหรือพิสูจน์ทดลองให้เห็นจริง แล้วนำหลักการหรือทฤษฎีนั้นไปประยุกต์ใช้ต่อไป
10. การจัดการเรียนรู้แบบอุปนัย การสอนแบบอุปนัยหรืออุปมาน (Inductive) เป็นการสอนจากตัวอย่างไปสู่การสรุปกฎเกณฑ์หรือหลักทั่วไป หรือเป็นการสอนจากรายละเอียดปลีกย่อยไปหากฎเกณฑ์ การสอนแบบนี้จึงมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ผู้เรียนรู้จักค้นหาข้อเท็จจริง และหลักการต่าง ๆ จากการสังเกตตัวอย่างที่สัมพันธ์กันอย่างเพียงพอ
11. การจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน วิธีสอนแบบโครงงาน (Project) เป็นวิธีสอนที่ทำให้ผู้เรียนเรียนรู้ได้ด้วยตนเองจากการลงมือปฏิบัติจริง ในลักษณะของการศึกษา สำรวจ ทดลอง ประดิษฐ์คิดค้น โดยมีครูเป็นผู้คอยกระตุ้นแนะนำ รวมทั้งการให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด
ประเภทของโครงงาน
12. การจัดการเรียนรู้แบบ 4 MAT วิธีสอนแบบ 4 MAT เป็นนวัตกรรมการออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับแนวคิด ในเรื่องความแตกต่างระหว่างบุคคลการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง รวมทั้งการพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนให้เป็นคนดีมีปัญญา เน้นการพัฒนาสมอง 2 ซีก ได้แก่ ความสามารถของสมองซีกขวาและความสามารถของสมองซีกซ้าย
กระบวนการจัดการเรียนรู้ได้แบ่งเป็น 4 ขั้นตอน
13. การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ การเรียนรู้แบบร่วมมือ (Co-Operative Learning) เป็นการให้ผู้เรียน ทำงานร่วมกันและช่วยเหลือกันในชั้นเรียน ซึ่งจะสร้างบรรยากาศที่ดี เพิ่มปฏิสัมพันธ์ที่ยอมรับซึ่งกันและกัน ผู้เรียนจะเรียนด้วยการลงมือกระทำ ผู้เรียนที่มีจุดบกพร่องจะได้รับการช่วยเหลือจากเพื่อนในกลุ่ม ความมุ่งหมายของการเรียนแบบทำงานรับผิดชอบร่วมกัน คือการให้สมาชิกทุกคนใช้ความสามารถอย่างเต็มที่ในการทำงานกลุ่ม
แนวคิดหลักที่จะนำไปสู่การเรียนรู้แบบร่วมมือกันอย่างมีประสิทธิผล
14. การจัดการเรียนรู้แบบซิปปา วิธีสอนแบบซิปปา (CIPPA Model) มีจุดเน้นที่การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมทั้งร่างกาย สติปัญญา สังคม และอารมณ์ มีองค์ประกอบที่สำคัญ 5 ประการ ดังนี้
C มาจาก Construct หมายถึง การสร้างความรู้ตามแนวคิดการสร้างสรรค์ความรู้
I มาจาก Interaction หมายถึง การปฏิสัมพันธ์กับบุคคลและสิ่งแวดล้อมรอบตัว
P มาจาก Physical Participation หมายถึง การมีส่วนร่วมทางร่างกาย เช่น กิจกรรมที่ให้ผู้เรียนมีโอกาสเคลื่อนไหวร่างกาย
P มาจาก Process Learning หมายถึง การเรียนรู้กระบวนการต่าง ๆ ที่เป็นทักษะที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต
A มาจาก Application หมายถึง การนำความรู้ที่ได้เรียนรู้ไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ
ขั้นตอนการจัดกิจกรรมการสอนตามหลักซิปปา
15. การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ วิธีสอนแบบบูรณาการ (Integrated) เป็นการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยเชื่อมโยงระหว่างประสบการณ์เดิม และประสบการณ์ใหม่ และเป็นประสบการณ์ตรงที่เชื่อมโยงความสัมพันธ์ในวิชาการหลาย ๆ แขนงในลักษณะสหวิทยาการ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ กระบวนคิด กระบวนการแก้ปัญหาและกระบวนการแสวงหาความรู้ ที่เชื่อมโยงทั้งหลักสูตรและวิธีการการจัดการเรียนรู้ ตลอดจนแนวคิดของผู้เรียนเพื่อให้เกิดความรู้แบบองค์รวม เพื่อนำไปประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวัน
วิธีสอนแบบบูรณาการทำได้ 2 วิธี คือ
16. การจัดการเรียนรู้แบบใช้เส้นเล่าเรื่อง วิธีสอนแบบเล่าเรื่อง (Story Line) เป็นวิธีสอนวิธีหนึ่งที่จะจัดเนื้อหาสาระ ของแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ ในหลักสูตรมาบูรณาการกัน โดยใช้กลุ่มสาระการเรียนรู้ใดกลุ่มสาระการเรียนรู้หนึ่งเป็นแกนเรื่อง เป็นการสมมติเรื่องราวหรือสถานการณ์ขึ้นให้สอดคล้องกับเนื้อหาสาระที่จะเรียน โดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ให้ผู้เรียนใช้ประสบการณ์ใช้ความรู้มาแก้ปัญหา เป็นการจัดการเรียนรู้ให้ผู้เรียนแก้ปัญหาจากสถานการณ์สมมติไปสู่การแก้ปัญหาในชีวิตจริง และจัดการเรียนรู้ให้ผู้เรียนรู้จักวิเคราะห์ปัญหาและส่งเสริมความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
หลักการจัดการเรียนรู้โดยใช้เส้นเล่าเรื่อง มีดังนี้
17. การจัดการเรียนรู้แบบปุจฉาวิสัชนา วิธีสอนแบบปุจฉา-วิสัชนา (Questioning-Answering) เป็นการเรียนรู้แบบถามตอบ เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนรู้จักคิดและรู้จักหาคำตอบด้วยตนเอง การใช้วิธีสอนแบบปุจฉา-วิสัชนาช่วยส่งเสริมให้ผู้เรียนคิด วิเคราะห์ วิจารณ์
18. การจัดการเรียนรู้แบบโครงสร้างความรู้ วิธีสอนแบบโครงสร้างความรู้หรือแผนผังความคิด (Graphic Organizer) เป็นการฝึกให้ผู้เรียนรวบรวมข้อมูลหรือความรู้จากการศึกษาค้นคว้า การอ่าน การฟังคำ บรรยาย แล้วนำข้อมูลมาจัดกลุ่ม เขียนเป็นภาพแสดงให้เห็นถึงโครงสร้างความคิด กระบวนการคิด และความสัมพันธ์ของกระบวนการคิด โดยใช้รูปภาพ แผนภาพหรือสัญลักษณ์เป็นสื่ออธิบายความคิด
References: